นักเรียนเจ็ดประเภทคืออะไร
งานวิจัยจาก Education Degree พบว่าในนักเรียนแต่ละคนมีวิธีการรับสารที่แตกต่างกัน โดยแบ่งเป็น 7 ประเภทใหญ่ๆ หากคุณครูได้รู้จักกับประเภทและวิธีการสอนที่เหมาะสมกับเด็กเหล่านี้แล้วก็จะสามารถสอนให้เด็กแต่ละคนเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเข้าใจเด็กมากขึ้น
1. Visual Learner หรือนักเรียนผ่านภาพ โดยที่นักเรียนระเภทนี้จะรับสารได้ดีที่สุดเมื่อมีภาพหรือการเปรียบเปรยกับสิ่งที่มองเห็น จินตนาการเป็นรูปได้ หากต้องการสอนเด็กๆนเหล่านี้ให้มีประสิทธิภาพ คุณครูอาจจะคอยหารูปภาพ หรือคลิปมาใส่ร่วมกับการสอน หรือแม้แต่กระตุ้นให้เด็กๆจินตนาการภาพต่างๆควบคู่กับการเรียน เช่นคอยแทรกคำเวลาสอนว่า “ขอให้นักเรียนนึกภาพตาม”
2. Aural Learner หรือนักเรียนผ่านเสียง นักเรียนประเภทนี้จะตอบสนองต่อเสียงได้ดีที่สุด โดยหลายคนอาจจะคิดว่าการจะกระตุ้นนักเรียนประเภทนี้ต้องเปลี่ยนทุกเนื้อหาเป็นเพลงหมดเลยหรือเปล่า แต่ว่าการช่วยนักเรียนประเภทนี้ไม่ยกอย่างที่คิด หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดคือการกระตุ้นให้เด็กๆ ถามตอบในห้องเรีบนและการใช้เสียงของตัวเอง เช่น การให้นักเรียนอ่านออกเนื้อหาที่เขียนในหนังสือ
3. Verbal Learner นักเรียนผ่านคำ โดยเด็กๆเหล่านี้เรียนรู้ได้ดีที่สุดเมื่อต้องเรียนตากการเขียนหรือการอ่าน แต่ว่าวิธีการเพิ่มศักยภาพในการเรียนให้กับเด็กๆเหล่านี้ไม่ได้มีแค่คำสั่งให้เขียนหรืออ่านเท่านั้น การให้สนับสนุนให้นักเรียนเหล่านี้ถ่ายทอดคำที่ตัวเองเรียนรู้ผ่านช่องทางอื่นนอกจากเขียนหรืออ่าน เช่นการนำเสนอหน้าห้องหรือการแสดงละครเป็นการเพิ่มศักยภาพให้เด็กเหล่านี้เรียนผ่านกระบวนการใหม่ๆและเข้าใจเนื้อหาต่างๆมากขึ้นได้ด้วย
4. Physical Learner นักเรียนผ่านร่างกาย วิธีสังเกตนักเรียนประเภทนี้คือพวกเขามักจะใช้ภาษากายมากกว่าจะพูด นักเรียนประเภทนี้เรียนได้ดีที่สุดเมื่อคุณครูนำเนื้อหาที่เรียนมาเชื่อมโยงกับอารมณ์และร่างกาย เคล็ดลับในการสอนเด็กเหล่านี้คือใช้อุปกรณ์เช่น ตัวต่อ Puzzle เพื่อให้นักเรียนสนใจในการเรียนมากขึ้น อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเด็กเหล่านี้ได้คือการเขียน Mind-mapping ลงบนกระดาษ
5. Logical Learner นักเรียนผ่านตรรกะ นักเรียนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่จัดระเบียบข้อมูลต่างๆได้เก่งที่สุด และสามารถเชื่อมต่อข้อมูลต่างๆได้เก่ง รวมทั้งมองสิ่งต่างๆได้จากหลายมุมมอง เด็กๆเหล่านี้มักจะเป็นหัวหน้างานกลุ่มต่างที่ดีได้ วิธีช่วยให้เด็กๆเหล่านี้เรียนได้เก่งขึ้นคือการท้าทายให้พวกเขาลองทำโจทย์หรือแบบฝึกหัดต่างๆที่ยากขึ้น และผลักดันพวกเขาให้ค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง
6. Social Learner นักเรียนผ่านสังคม เด็กๆเหล่านี้จะเป็นคนที่เพื่อนเยอะ ชอบทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆไม่ว่าจะเป็นเกมส์กีฬาหรือวงดนตรี วิธีการเข้าหาเด็กเหล่านี้ได้ดีสุดคือการสื่อสารกับเด็กๆเหล่านี้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ไม่ว่าจะผ่านกิจกรรมเล็กๆเช่น การถามคำถาม การให้เด็กลุกขึ้นอ่านบทความในห้องเรียน ไปจนถึงการทำงานกลุ่มกิจกรรมนำเสนอหน้าห้องเรียน
7. Solidarity Learner นักเรียนเดี่ยว คนมักจะคิดว่านักเรียนเหล่านี้เป็นคนขี้อาย ชอบเก็บสิ่งต่างๆไว้คนเดียว แต่เด็กๆเหล่านี้เป็นประเภทที่สามารถเรียนได้อย่างสบายใจที่สุดเมื่อได้รับความเป็นส่วนตัวหรืออยู่คนเดียว คุณครูสสามารถช่วยเด็กเหล่านี้ได้ ด้วยการมอบเป้าหมายนการเรียนที่ชัดเจนให้กับเด็กๆเหล่านี้ เพื่อให้เขาสามารถนำไปปรับใช้เองได้อย่างดีที่สุด
เมื่อได้รู้จักนักเรียน 7 ประเภทแล้ว คุณครูสามารถนำความรู้นี้ไปปรับใช้ในการสอนในห้องเรียน และการสื่อสารกับเด็กๆในห้องเรียนได้อีกด้วย การรู้จักเด็กมากยิ่งขึ้นจะยิ่งทำให้ประสิทธิภาพในการสอนของคุณครูสูงขึ้นไปอีก
ที่มา : https://www.educationdegree.com/articles/different-types-of-learning-styles/
