“ง่าย” คำสั้นๆ ที่อาจทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนไป!
อันตรายของคำว่า "ง่าย" ที่อาจทำให้ชีวิต พลาดได้ไม่ยาก
หลายๆครั้งที่คุณครูพยายามให้กำลังใจเด็กๆในการทำข้อสอบว่าวิชานี้เป็นเรื่องง่ายดังนั้นจึงจำเป็นต้องกังวล “เรื่องนี้ง่ายนิดเดียว”ประโยคที่คุณครูหลายๆคนเคยใช้และนักเรียนหลายๆคนเคยได้ยิน แต่ประโยคนี้ก็มีข้อเสียอยู่เช่นกัน เช่น เมื่อเด็กๆที่ไม่สามารถเข้าใจโจทย์ทั้งที่ทุกคนต่างบอกว่ามันง่าย ทำให้รู้สึกเสียกำลังใจและหมดความมั่นใจในตัวเองที่ไม่สามารถทำเรื่องง่ายให้ประสบความสำเร็จได้ การติดป้ายว่าง่ายลงในบทเรียนวิชาต่างๆเหมือนกับเป็นการสร้างมาตรฐานในวิชานั้นที่เด็กๆหลายๆคนทำไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักเรียนที่ไม่ได้มีศักยภาพด้านวิชาการสูงหรือนักเรียนที่มีความบกพร่องด้านการเรียนรู้
จริงอยู่คำว่า”ง่าย” อาจจะทำให้นักเรียนรู้สึกกระตือรือร้นที่จะลุกขึ้นมาทำงานมากขึ้นเพราะรู้สึกว่าตัวเองน่าจะมีความพร้อม แต่ในขณะเดียวกัน เรื่องง่ายสำหรับคุณครูอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักเรียนทุกคน และคำว่าง่ายนี่เองที่จพผลักเด็กนักเรียนเหล่านั้นให้รู้สึกหมดความมั่นใจ และโทษว่าตัวเองบกพร่องได้ เพราะฉะนั้น แทนที่จะพูดว่า “นี่เป็นเรื่องง่ายๆ”เพื่อกระตุ้นเด็กให้สนใจในวิชาต่าง ๆ วันนี้เรารวมประโยคอื่น ๆ ที่คุณครูสามารถนำมาใช้แทนคำว่าง่าย เพื่อจัดการห้องเรียนน่าอยู่มากขึ้นอีกด้วย เพราะคุณครูจะได้แสดงความเข้าใจต่อนักเรียนมากขึ้นมาฝากกัน
“ถ้าได้ฝึกฝนแล้วจะทำได้แน่นอน”
ถึงจะดูเหมือนคำคมที่เห็นเกลื่อนตา แต่ส่าประโยคนี้เองก็ตรงกับความจริงที่สุด ยิ่งนักเรียนใช้เวลาฝึกฝนกับทักษะใดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งชำนาญต่อวิชานั้นมากขึ้น เพราะฉะนั้นการสนับสนุนให้นักเรียนฝึกฝนทักษะ ไม่ว่าจะด้วยตัวเองหรือให้เพื่อนช่วย เพื่อเอาชนะข้อสอบหรือบทเรียนที่ตัวเองไม่เข้าใจจึงเป็นเรื่องดีกว่าบอกเด็กว่าบทเรียนนั้นเป็นเรื่องง่ายที่ใครๆก็ทำได้
“เธอมีความสามารถพอที่จะทำได้”
นักเรียนทุกคนมีความสามารถพอที่จะทำงานแต่วิชาให้สำเร็จลุล่วง เพียงแต่ว่าใช้เวลาและวิธีแตกต่างกันไป จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณครูต้องแสดงให้นักเรียนเห็นว่า คุณครูมีความเข้าใจว่านักเรียนมีความสามารถต่างๆและใช้เวลาไม่เท่ากัน และนักเรียนมีความสามารถมากพอที่จะสามารถเรียนบทเรียนให้สำเร็จได้ เน้นย้ำให้เห็นว่าความสำเร็จของพวกเขานัน้มาจากความสามารถของพวกเขาเอง ไม่ใช่เพราะข้อสอบง่ายอีกด้วย
“ไม่เป็นไรที่จะทำไม่ได้แล้วมองว่าบทเรียนนั้นยาก”
ยิ่งนักเรียนพบกับความยากลำบากในการเรียนมากแค่ไหน ความเข้าใจจากคุณครูก็ยิ่งสำคัญ ยิ่งเวลาที่นักเรียนต้องเรียนสิ่งใหม่ๆหรือวิชาที่ไม่ถนัดก็เป็นเรื่องปกติที่จะทำไม่ได้ ลำบากบ้าง การที่นักเรียนรู้สึกว่าหัวข้อนั้นทำได้ยากลำบาก ใช้เวลา หรือเจออุปสรรคนั้นเป็นเรื่องปกติที่ต้องเจอก่อนที่จะเข้าใจบทเรียนได้อย่างถ่องแท้ คุณครูต้องเป็นคนช่วยปรับความเข้าใจให้กับนักเรียน ว่าการที่นักเรียนยังไม่เข้าใจเนื้อหาบทเรียนนั้นไม่ใช่เรื่องผิดปกติ และหากฝึกฝนหรือหาวิธีการเรียนอื่นต่อไปย่อมทำให้สำเร็จได้
“ที่คุณครูมองว่าเรื่องนี้ง่าย เพราะคุณครูเรียนและสอนเรื่องนี้มาจนเชี่ยวชาญแล้ว”
หลายครั้งที่คุณครูเองก็หลุดพูดไปแล้วว่า วิชาของตนนั้นง่ายเพราะคิดแบบนั้นจริงๆ แต่ที่สำคัญคือการทำให้นักเรียนเข้าใจถึงว่าแต่ละบุคคลมีความสามารถแตกต่างกัน ใช้เวลาและวิธีการเรียนรู้สิ่งต่างๆไม่เหมือนกัน ดังนั้นการย้ำให้นักเรียนไม่รู้สึกท้อเมื่ออเห็นคุณครูทำเหมือนวิชาต่างๆเป็นเรื่องง่าย คือการใช้คุณครูเป็นตัวอย่างว่า ความคล่องแคล่วและความเข้าใจของคุณครูต่อวิชาและบทเรียนก็มาจากเวลาและการฝึกฝนเช่นกัน
ที่มา Edutopia